คอมเมนต์เวียดนามรู้ลึกรู้จริง หลังศุภณัฏฐ์ยิงประตูในลีกเบลเยียมได้แล้วนำไปเปรียบเทียบกับนักเตะเวียดนาม
Trầ***(ผู้โพสต์คนแรก)
กองหน้าทีมชาติไทย ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ยิงประตูแรกในลีกสูงสุดของเบลเยียม
เมื่อเช้านี้ตามเวลาของเวียดนาม, การแข่งขันเบลเยียม โปรลีก นัดที่ 20 กองหน้าทีมชาติไทย ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ลงสนามในนาทีที่ 72 แล้วยิงประตูแรกของเขาในลีกเบลเยียมได้ในนาทีที่ 89 ช่วยให้ทีมโอเอช ลูเวิน เอาชนะ KAS อูเพน 3-0 จนถึงตอนนี้ศุภณัฏฐ์ลงเล่นในลีกเบลเยียมทั้งหมด 5 นัดแล้ว
คอมเมนต์ชาวเวียดนาม
Ho***
นักเตะไทยยังคงมีคลาสมากกว่าพวกเรา
Vuo***
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเตะเมื่อไปค้าแข้งในต่างประเทศคือภาษาต่างประเทศ … ถ้าหากคุณไม่เก่งภาษาอังกฤษก็อยู่บ้านดีกว่า … นักเตะเวียดนามถือว่าล้มเหลวในการไปเล่นในต่างประเทศด้วยเหตุผลนี้ … หวังว่านอกเหนือจากวิชาการที่สอบแล้ว เวียดนามจะเน้นในเรื่องของภาษามากกว่านี้นะ
Da***
สุดยอดจริงๆ
Min***
พี่น้องสองคนนี้เก่งจัง
Hu***
นักฟุตบอลไทยที่ไปค้าแข้งในต่างประเทศเล่นดีจริงๆ นะ … ทุกคนต่างก็ทิ้งรอยเล็กๆ เอาไว้
Ngô***
ไม่ว่าคนจะพูดยังไงก็ตาม … นักเตะไทยที่ไปค้าแข้งในต่างประเทศยังคงประสบความสำเร็จมากที่สุดในอาเซียน
Do***
ด้วยการพัฒนาอย่างเป็นระบบแบบนี้ … เป้าหมายฟุตบอลโลกคงจะไม่อยู่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
Bùi***
พูดตามตรงเลยนะ … เมื่อสินค้าไทยส่งออกไปขายในต่างประเทศก็ยังคงมีคุณภาพที่ดีอยู่
***********************************************************
Qua***(ผู้โพสต์คนที่2)
นักเตะคนนี้คือตัวอย่างหนึ่งของการฝึกฝนนักเตะส่งออกอย่างเป็นระบบของประเทศไทย … ผมรู้จักและสังเกตเห็นเด็กคนนี้มาตั้งแต่ซีเกมส์ 2019 ตอนที่เวียดนามพบกับไทย เขาอายุเพียงแค่ 17 ปี แต่ก็สามารถทำประตูได้ … ตอนที่ยังเล่นอยู่กับทีมบุรีรัมย์ก็ได้เลื่อนขั้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ตอนที่เขาอายุได้ 15 หรือ 16 ปีเท่านั้น … และประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดก็ลงทุนอย่างหนักกับเด็กคนนี้ … เมื่อจบฤดูกาลก็ไปเข้าร่วมฝึกซ้อมกับทีม U23 ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประมาณ 2-3 เดือนทุกครั้งที่หยุดพักจากการแข่งขันเพื่อให้เขาได้สร้างความคุ้นเคย … ช่วงซีเกมส์ก็ไม่ยอมให้เขาเข้าร่วมแต่ให้ไปฝึกซ้อมที่เลสเตอร์แทน
ความดีงามของประเทศไทย ก็คือ พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากการที่เจ้าของสโมสรเป็นคนไทย ทั้งในโอเอช ลูเวิน และ เลสเตอร์ ซิตี้ จึงสามารถส่งนักเตะไปเล่นที่นั่นได้ หรือการที่สโมสรไทยลีกจับมือเป็นพันธมิตรกับสโมสรเจลีกและดึงนักเตะไปเข้าร่วมทีม ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว วิธีนี้ก็คล้ายๆ กับการที่ญี่ปุ่นส่งออกนักเตะไปยังยุโรป เริ่มต้นด้วยการให้ยืมตัวไปยังสโมสรระดับกลางๆ ของยุโรป (โดยปกติ คือ เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์, ออสเตรีย, โปรตุเกส, หรือดิวิชั่น 2 ของเยอรมนี) โดยมีสัญญา 6 เดือน หรือ 1 ปี
หลังจากสิ้นสุดระยะเวลายืมตัว หากสโมสรรู้สึกมั่นใจในผลงานก็จะซื้อขาดทันที … ในประเทศไทยก็จะมีกรณีตัวอย่าง เช่น ชนาธิป, ธีราทร, สุภโชค และในอนาคตอันใกล้นี้อาจจะเป็นเอกนิษฐ์ก็ได้ ถ้าหากอูราวะ เรด ไดมอนด์สอยากซื้อตัว … ส่วนศุภณัฏฐ์ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน … ซึ่งการทำแบบนี้มันดีตรงที่ถ้าหากไม่ประสบความสำเร็จก็ยังมีสโมสรเก่าให้กลับมาได้ … ต่างจากนักเตะเวียดนาม ซึ่งล่าสุดมีนักเตะเวียดนามไปค้าแข้งในต่างประเทศแบบไม่มีค่าตัว … เจรจาต่อรองด้วยตัวเอง … พอไม่ประสบความสำเร็จก็กลับมาเล่นให้กับสโมสรอื่นและทุกอย่างมันก็พังทลายไปหมด … ซึ่ง ดวน วาน เฮา และ กวง ไฮ ต่างก็เป็นเช่นนั้น
ประเทศไทยแทบจะเลียนแบบโมเดลของญี่ปุ่นในการส่งออกนักเตะ แล้วก็ยังเลือกลีกเบลเยียมเพื่อให้นักเตะใช้เป็นสะพานเชื่อมไปยังลีกยุโรป … 😃 ใช้ประโยชน์จากการที่มีเจ้าของสโมสรเป็นคนไทย ซึ่งเหมือนกับเรื่องราวของสโมสรแซงต์-ทรุยด็อง สโมสรเก่าของคองเฟือง ซึ่งมีเจ้าของสโมสรเป็นชาวญี่ปุ่น ดังนั้นจึงมีนักเตะญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากที่ไปเล่นในแซงต์-ทรุยด็องและลีกเบลเยียมเพื่อเป็นบันไดในการก้าวไปสู่สโมสรที่ใหญ่กว่าในยุโรป … ยกตัวอย่างเช่น วาตารุ เอ็นโดะ (ลิเวอร์พูล), โทมิยาสุ (อาร์เซนอล) และเคโตะ นากามูระ (แร็งส์) ต่างก็เคยเล่นให้กับสโมสรแซงต์-ทรุยด็อง ก่อนที่จะย้ายไปทีมอื่น … และปัจจุบัน แซงต์-ทรุยด็อง ก็มีนักเตะต่างชาติที่เป็นชาวญี่ปุ่นอยู่ถึง 8 ราย 😃
เรื่องราวของนักเตะที่เดินทางไปค้าแข้งในต่างประเทศมันไม่ใช่เป็นเพียงแค่เรื่องราวของนักเตะเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงระบบสนับสนุนและการอำนวยความสะดวกอีกด้วย … ไม่ว่าคุณจะเกลียดพวกเขาหรือไม่ ก็ต้องยอมรับว่าระบบของฟุตบอลไทยดีกว่าเวียดนามมากจึงสามารถฝึกฝนและส่งออกนักเตะไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศได้ … บางทีระดับของพวกเขาก็ไม่ได้แตกต่างจากเวียดนามมากนัก แต่เมื่อพวกเขาได้ไปฝึกฝนในต่างประเทศ 3-5 ปี พวกเขาก็กลับมาสังหารหมู่นักเตะในอาเซียนทันที
คอมเมนต์ชาวเวียดนาม
Ale***
+1 ขอแสดงความนับถือที่คุณสามารถเขียนเรียงความได้ยาวขนาดนี้
Duy***
ผมรู้สึกว่าไปเล่นไทยลีกก่อน แล้วก็ใช้มันเป็นบันไดเพื่อก้าวไปสู่ลีกญี่ปุ่น มันก็ถือว่าค่อนข้างโอเคนะ … ไม่รู้จะไปไกลเพื่ออะไร
ตอบ Qua***(เจ้าของโพสต์)
ประเด็นก็คือว่า การไปเล่นประเทศไทยมันเป็นเรื่องง่าย … มีนักเตะสิงคโปร์และเมียนมามาเล่นอยู่อย่างมากมาย … และสิ่งสำคัญก็คือว่า … พวกเขาอยากจะไปหรือไม่ … เพราะนักเตะเวียดนามส่วนใหญ่บอกว่าอยากไปญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ หรือฝันอยากไปยุโรป … แต่ถ้าหากพวกเขาไปเล่นในไทยลีก พวกเขาคิดว่าอยู่บ้านดีกว่า, มีสุขภาพแข็งแรงและเงินเดือนสูง แถมยังได้อยู่ใกล้บ้านด้วย
ตอบ Duy***(เจ้าของเมนต์)
ที่กล่าวมา คือลักษณะทั่วไปของคนเวียดนามและฟุตบอลเวียดนามโดยเฉพาะคนที่กลัวการไปต่างประเทศ … ผมคิดว่า กวง ไฮ สามารถเจริญก้าวหน้าได้ แต่ถ้าหากเลือกทางเดินทางผิดพลาด ก็ต้องยอมยับ
ตอบ Trầ***
นักเตะที่ไปเล่นในประเทศไทย คงจะไม่โด่งดังอย่างแน่นอน … เพราะปัญหาของนักเตะเวียดนามไม่ใช่แค่ความเป็นมืออาชีพเท่านั้น :))
ตอบ Din***
นอกจากนี้ ยังมีหลายสโมสรในประเทศของพวกเราต้องการที่จะเก็บนักเตะของตัวเองเอาไว้ และไม่ยอมให้นักเตะย้ายทีม เช่น เวียดเทล, HAGL เป็นต้น
ตอบ Qua***(เจ้าของโพสต์)
นั่นก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาเช่นกัน … สัญญาในเวียดนามนั้นนานเกินไป … ทางฝั่งยุโรปมักจะมองหานักเตะญี่ปุ่น เช่นเดียวกับทางฝั่งญี่ปุ่นที่มักจะมองหานักเตะอาเซียน และจะเน้นนักเตะที่อายุต่ำกว่า 25-26 ปี เป็นหลัก เพราะว่าในช่วงอายุนี้ ยังสามารถฝึกฝนได้ และถ้าหากขายก็จะได้ค่าธรรมเนียมในการย้ายทีม … แต่ไม่มีสโมสรไหนเลยในลีกชั้นนำของยุโรปที่มองหานักเตะเจลีกที่มีอายุประมาณ 28-29 ปี เนื่องจากช่วงอายุนี้จะเป็นช่วงสุดท้ายในการค้าแข้งอาชีพฟุตบอลแล้ว … ดังนั้นไปเลือกนักเตะท้องถิ่นน่าดีกว่านักเตะญี่ปุ่นที่อยู่ในระดับเดียวกัน
… ส่วนในประเทศไทย … สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ดมีความกระตือรือร้นมากที่สุดในการอนุญาตให้นักเตะไปเล่นในต่างประเทศ … ทั้งชนาธิป, ธีราทร และธีรศิลป์ ต่างก็ได้รับอนุญาตให้ไปค้าแข้งในต่างประเทศทั้งหมดถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นตัวหลักของสโมสรก็ตาม … ดังนั้นถึงแม้ว่าผลงานของเมืองทองจะย่ำแย่ในประเทศไทย … แต่แฟนบอลไทยก็ยังคงรักพวกเขาและไม่ค่อยถูกล้อเลียน เพราะว่าสโมสรของพวกเขาทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างแท้จริง
ตอบ Trầ***
ส่วนหนึ่งของปัญหาเกิดจากการที่นักเตะของพวกเราค่อนข้างหลงตัวเองและมองว่าไทยลีกคือคู่แข่ง … และแฟนบอลเวียดนามจำนวนมากยังคงเข้าใจผิดอยู่เล็กน้อย … ลองดูนักเตะบราซิลสิ พวกเขายังเลือกไปเล่นในลีกโปรตุเกส หรือยูเครนเพื่อเป็นบันไดในการก้าวไปสู่ 5 ลีกใหญ่ของยุโรป … นักเตะเกาหลีใต้ก็ยังไปเล่นในเจลีก … ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแย่อะไรเลยถ้าหากนักเตะเวียดนามจะไปเล่นในไทยลีกเพื่อเป็นบันไดก้าวไปสู่ลีกต่างประเทศที่สูงกว่า … แม้แต่นักเตะไทยเองก็ยังไปเล่นในลีกอื่นของอาเซียนเพื่อหาประสบการณ์ที่แตกต่างอยู่หลายปี
ตอบ Vũ***
ถ้าหากเป็นประเทศไทย ผมพูดตามตรงเลยนะ หากคุณเป็นนักเตะระดับทีมชาติเวียดนามและคุณสามารถเลือกทีมชั้นนำอย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หรือการท่าเรือ เอฟซี ได้ก็ถือว่าโอเค … แต่ถ้าหากเป็นทีมระดับกลางอยู่ที่เวียดนามต่อดีกว่า เพราะศักยภาพทางการเงินของทีมระดับกลางในไทยลีกก็ไม่ได้ดีกว่าเวียดนามมากนัก
ตอบ Trầ***
นักเตะตัวท็อปของเวียดนามจึงมักจะมุ่งเป้าไปที่ทีมท็อป 4 ของไทยลีกอยู่แล้ว จะได้มีโอกาสไปเล่นในรายการ AFC Champions League
Trầ***
โดยทั่วไปแล้ว EQ มีความสำคัญมากกว่า IQ … ดูตัวอย่างจากความเป็นมืออาชีพของชนาธิป หรือ ธีราทร ก็ยังคงน่าทึ่งอยู่ … ส่วนเด็กหนุ่มอย่างสุภโชค หรือ ศุภณัฏฐ์ ก็ไม่ได้เก่งไปกว่านักเตะเวียดนามมากนัก แต่ประเด็นก็คือว่า พวกเขาได้รับฝึกฝนเพื่อเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการไปค้าแข้งในต่างประเทศ … มีการบูรณาการที่ดีและการสื่อสารที่ดี … และประเทศไทยก็ยังมีระบบนายหน้าซื้อ-ขายนักเตะที่ดีกว่ามากเช่นกัน
Nhậ***
ผมเห็นด้วยกับข้อโต้แย้งและหลักฐานส่วนใหญ่ของคุณนะ … แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่นักเตะเวียดนามจะค้าแข้งในต่างประเทศแบบไม่มีค่าตัว … นักเตะเวียดนามส่วนใหญ่ที่ไปค้าแข้งในต่างประเทศ คือ นักเตะอันดับต้นๆ ของประเทศ และก็มีสโมสรต่างประเทศหลายแห่งที่ให้การต้อนรับและดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี … และเมื่อพวกเขากลับมาที่สโมสรแห่งใหม่ พวกเขาก็ได้รับการปฏิบัติดีกว่าสโมสรเก่า … เพียงแต่ว่าเมื่อพวกเขาไปเล่นในต่างประเทศ พวกเขากลายเป็นตัวสำรองนานเกินไปจึงทำให้ฟอร์มตก …
ส่วนกรณีของ กวง ไฮ และ วาน เฮา นั้นถือว่าแตกต่างกันอย่างมากและไม่สามารถเอามามัดรวมกันได้ … ก่อนที่กวง ไฮ จะไปเล่นในต่างประเทศ นักเตะเวียดนามส่วนใหญ่จะไปค้าแข้งในต่างประเทศด้วยสัญญายืมตัวโดยที่มีสโมสรในประเทศสำรองเอาไว้อยู่แล้ว … แต่ในกรณีของเวียดนามกลับกลายเป็นผลเสีย เพราะว่าเมื่อสโมสรทำสัญญาก็มักจะเสนอเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์ต่อสโมสรเสมอ … ในขณะเดียวกันการเลือกสโมสรที่จะไปมันก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์กับสโมสรต้นสังกัดเป็นอย่างมากด้วย … มีเพียงสโมสรเท่านั้นที่จะเป็นผู้กำหนด เช่น การปล่อยตัวนักเตะเพื่อไปเล่นซีเกมส์ เหมือนอย่างเช่นกรณีของ วาน เฮา …
ส่วน กวง ไฮ ก็เป็นคนที่ซึมซับบทเรียนจาก วาน เฮา แล้วตัดสินใจเดินทางไปเล่นในต่างประเทศอย่างอิสระด้วยตัวเองทั้งหมด … แต่ในความคิดของผมแล้ว การออกไปเล่นแบบอิสระมันก็ไม่ได้แย่นะ กับสถานการณ์ของสโมสรที่เกิดขึ้นในเวียดนาม
Na***
ถ้าหากคุณบอกว่าการยืมตัวนักเตะไปเล่นในต่างประเทศเป็นเรื่องที่ดี … เดี๋ยวผมจะชี้ให้เห็นถึงข้อเสียของมันด้วยนะ … ในฐานะนักเตะ พวกเขารู้ว่าพวกเขายังมีหนทางที่จะไป … ดังนั้นพวกเขาจึงมีแรงจูงใจและความมุ่งมั่นที่ลดลง 😃 เมื่อก่อนนักเตะของทีม HAGL มักจะถูกปล่อยตัวให้ยืมตลอดแต่ก็ไม่มีการพัฒนาใดๆ … ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องของการยืมตัวหรือโอนฟรี … แต่ปัญหามันอยู่ที่ทักษะของนักเตะและการเลือกทีมที่เหมาะสม
ขอบคุณภาพประกอบการบรรยาย (Photo credit)
เพจ OH Leuven Thailand
เรียบเรียงโดย อีเจ้
เพจ : เพจคอมเมนต์แฟนกีฬาต่างชาติ
เว็บ : http://kwamkidhen.com/
ยูทูป : EJComment
IG : ejcomment
twitter : EJComment