สมาคมฯ จับมือกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้าง “ช้างศึก” รุ่นใหม่ ตั้งเป้า 3 ปี ขึ้น Top 10 เอเชีย
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. ณ. ห้องประชุมชั้น 1 ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ,การ์เลส โรมาโกซา ผู้อำนวยการเทคนิคทีมชาติไทย, ชนน์ชนก ชิดชอบ ผู้จัดการทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี และ มิลอส เวเลบิต หัวหน้าผู้ฝึกสอน รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ร่วมแถลงข่าวจับมือสร้างทีมชาติไทยรุ่นใหม่ ตั้งเป้า 3 ปี ขึ้น Top 10 เอเชีย
พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า ตามที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เปิดให้ สโมสรสมาชิกเสนอแผนงานเพื่อพัฒนากีฬาฟุตบอล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการยกระดับฟุตบอลทีมชาติไทย ทุกรุ่นอายุ ให้สามารถเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลในระดับนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย
“สมาคมฯ ขอขอบคุณ ทุกสโมสรที่ให้ความสนใจ เสนอแผนงาน และเสนอตัวเข้ามา ซึ่งหลังจากที่ฝ่ายเทคนิคและทีมชาติไทย โดย การ์เลส โรมาโกซา ผู้อำนวยการเทคนิคทีมชาติไทย รับฟังแนวทางและพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการนำทีมชาติไทยก้าวไปสู่เป้าหมาย จึงนำมาซึ่งความร่วมมือกับ สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”
“อย่างที่ทราบกันดีนักกีฬาในช่วงอายุวัย 18-20 เป็นช่วงสำคัญของนักฟุตบอลว่าจะก้าวขึ้น สู่นักเตะอาชีพได้หรือไม่ หรือ จะหายออกไปจากวงการ ดังนั้น การที่บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีความโดดเด่นในการควบคุมวินัยนักกีฬาที่เคร่งครัด ทั้งด้านฟิตเนส โภชนาการ การฝึกซ้อมอยู่แล้ว สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะส่งผลให้ทีมชาติไทย ก้าวสู่เป้าหมายคือการยกระดับมาตรฐานและผลการแข่งขันต่อไป”
“สมาคมฯ และ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำข้อตกลงร่วมกัน ที่จะสร้างทีมชาติไทย เพื่อเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเซีย ปี 2025 โดย มีเป้าหมายที่จะเป็น 1 ใน 10 อันดับแรกของเอเซีย โดยมี ชนน์ชนก ชิดชอบ เป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดนี้ และ มิลอส เวเลบิต กุนซือชาวเซอร์เบีย เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน”
ทีมชาติไทย ชุดนี้ จะถูกสร้างขึ้นมา ด้วยแนวคิดการทำงานใหม่โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน คัดนักฟุตบอลที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี (เกิดปี 2548) มาเก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกันต่อเนื่อง 3 ปี
ทีมชาติไทยชุดนี้ มีคอนเซปต์สำคัญการสร้างทีมประกอบด้วย เสียสละ, มีจรรยาบรรณ, มีความรับผิดชอบ, ทัศนคติที่ดี, มีวินัย, สภาพจิตใจ, การทำงานหนัก และสามัคคี ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำให้นักเตะไทยยกระดับและพัฒนาฝีเท้า
กระบวนการสำคัญคือมี 4 ขั้นตอนคือ
– CHANGE เปลี่ยนในเรื่องของการพัฒนาสภาพจิตใจ, สภาพร่างกาย และ เทคนิค
– KINGS OF ASEAN การนำทีมชาติไทยกลับสู่จุดที่ควรเป็น และสร้างความสุขให้แฟนบอล
– JUMP การก้าวไปข้างหน้า ด้วยมาตรฐาน เพื่อก้าวไปท้าทายชาติชั้นนำของเอเชีย อย่าง ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้
– CONSISTENCY ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ ในการพัฒนาวงการฟุตบอลในระยะยาว และก้าวไปเล่นในระดับโลกเพื่อเป็นบันไดต่อไปสำหรับนักเตะในอนาคต
โดยการเตรียมทีมจะมีการเปิดทดสอบฝีเท้านักกีฬา ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2565 เป็นต้นไป นักกีฬาทั้งหมด จะมีการเก็บตัว ที่แคมป์ของสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมงานสตาฟฟ์โค้ช และได้รับการฝึกฝนทักษะฟุตบอล ในสภาพแวดล้อมที่พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ระดับมาตรฐานสากล อาทิ สนามซ้อม, สนามแข่งขัน, ที่พักสำหรับเก็บตัว, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และโภชนาการ รวมถึงระเบียบวินัยและการใช้ชีวิตทั้งในและนอกสนาม เป็นต้น
สำหรับ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย ชุดนี้ ได้แก่ มิลอส เวเลบิต หัวหน้าผู้ฝึกสอน และ สโตยาน วาลาน หัวหน้าฟิตเนสโค้ช
ประวัติของ มิลอส เวเลบิต หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเซอร์เบีย ถือใบอนุญาตผู้ฝึกสอน ระดับ ยูฟ่า โปรไลเซนส์ มาตั้งแต่ปี 2011โดยสมัยเป็นนักฟุตบอล เคยติดทีมชาติ ยูโกสลาเวีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 และ 19 ปี
ส่วนประสบการณ์การเป็นโค้ชมี ดังนี้
2005-2007 โค้ชทีมชาติเซอร์เบีย และ มอนเตเนโกร U17
2007-2008 ผู้ช่วยโค้ช อัล อาห์ลี เอสซี (ซาอุดิอาระเบีย)
2008-2009 โค้ช เอฟซี บานาต (เซอร์เบีย)
2009-2010 เฮดโค้ช ทีมสมาคมฟุตบอลเซอร์เบีย U16
2010-2011 โค้ช เอฟซี สโลโบด้า (เซอร์เบีย)
2011-2012 หัวหน้าฝ่ายวิทยากร สมาคมฟุตบอล เซอร์เบีย
2012 โค้ชทีมชาติ คูเวต
2012-2013 เฮดโค้ช เอฟซี สเมเดเรโว (เซอร์เบีย)
2013-2015 เฮดโค้ช อคาเดมี เอฟซี จาโกดินา
2014-2015 โค้ชทีมชาติเซอร์เบีย U19
2015-2016 เฮดโค้ช อัล ชะบ๊าบ (คูเวต)
2016-2018 เฮดโค้ช ทีมชาติเซอร์เบีย U19
2018-2019 โค้ช เอฟซี คานธี (กรีซ)
2019 เฮดโค้ช ทีมชาติอาเซอร์ไบจาน U17
2021 เฮดโค้ช ทีมชาติอาเซอร์ไบจาน U19
ข่าวและภาพ: ฟุตบอลทีมชาติไทย
เรียบเรียงโดย อีเจ้
เพจ : เพจคอมเมนต์แฟนกีฬาต่างชาติ
เว็บ : http://kwamkidhen.com/
ยูทูป : EJComment